Tuesday, July 18, 2006
หนองเอย....หนองคาย
วีรกรรมปราบฮ่อ หลวงพ่อพระใส สะพานไทยลาว......
วันนี้ Mr.Gelgloog ขอใช้โอกาสพูดถึงเรื่องจังหวัดที่บอกได้เลยว่าสำหรับผมแล้ว เป็นจังหวัดที่ใกล้ชิดกับตัวเองจังหวัดหนึ่งมากเลยทีเดียว (แม้ว่าแม่งระยะทางจะไกลมาก ฮ่า) ซึ่งหลายๆคนคงรู้จากคำขวัญประจำจังหวัดที่ได้จั่วหัวเอาไว้แล้ว ซึ่งก็คือจังหวัด “หนองคาย” นั่นเอง
ที่ว่าใกล้ชิดนั่นก็เพราะว่าท่านพ่อของผมเป็นคนหนองคายแท้ๆ ตั้งแต่กำเนิดเลยทีเดียว ซึ่งตระกูลผมก็มาตั้งรกรากอยู่หนองคายตั้งแต่สมัยคุณพ่อของคุณย่าโน่นแหละ (พูดสั้นๆก็คือท่านทวด) ถ้าจำไม่ผิดยศทางตำรวจจะชื่อว่า จมื่นชอบ ระวังการ (มั๊งนะ ส่วนชื่อจริงนี่ลืมไปแล้วแฮะ ใครอยากรู้ไว้ผมจะไปถามพ่อผมดูให้ละกันนะ)
คุณทวดได้โยกย้ายจากกาฬสินธุ์มาตั้งรกรากที่หนองคายจนถึงทุกวันนี้ บรรดาอาๆบางส่วนก็ยังคงอยู่ที่โน่น และก็มีบางคนที่ย้ายมาตั้งรกรากที่กรุงเทพฯ (เช่นพ่อผมเป็นต้น) แต่ถึงแม้ว่าจะอยู่กรุงเทพฯ ที่บ้านผมก็ยังขึ้นไปเยี่ยมทางโน้นปีละครั้ง ถึงสองครั้ง และอาจจะถึงสามครั้งถ้าฟิตพอ ดังนั้นแล้วผมจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับจังหวัดหนองคายพอสมควรเลยทีเดียว สมัยเด็กๆพอปิดเทอมปุ๊บ ก็จะขึ้นไปอยู่กับคุณปู่ คุณย่า แต่พักหลังพอโตมาด้วยภารกิจเรื่องเรียนและกิจกรรมอะไรหลายๆอย่างทำให้ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมที่โน่นเท่าที่ควร
จนมาถึงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ผมได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมหนองคายอีกครั้ง แต่เป็นโอกาสที่ไม่ใคร่จะดีนักเพราะคุณปู่ของผมป่วยหนักนอนอยู่ห้องไอซียูที่โรงพยาบาลในอุดรธานี ทางบ้านจึงต้องรีบรุดมาโดยด่วน ซึ่งสำหรับอาการของปู่ผมก็ไม่ดีมานานแล้วล่ะครับ ถึงตอนนี้ก็ต้องทำใจกันลูกเดียว เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้นวังวนนี้ไปได้อย่างแน่นอน
แน่นอนว่าภารกิจหลักของผมก็คือการกลับไปเยี่ยมเยียนผู้เฒ่าผู้แก่ แต่ภารกิจรองของผมก็เป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้เช่นกัน นั่นก็คือผมกับน้องมักจะตระเวนเที่ยวเมืองหนองคายประจำ
หนองคายเองก็ได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งคิดว่าโด่งดังมาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติอันแสนลึกลับนั่นก็คือบั้งไฟพญานาคนั่นเอง ถึงเทศกาลนี้ทีไร โอ้ยคนมืดฟ้ามัวดินมากันเต็มไปหมด สำหรับผมเองก็เคยเห็นมากับตาแล้วครับ มันน่าตกใจจริงๆ อยู่ก็มีลูกไฟสว่างวาบโผล่ฟุ่บขึ้นมาจากน้ำเฉยเลย ใครสนใจก็ไปกันได้ครับที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ห่างจากตัวเมืองไปนิดหน่อยครับ ประมาณไม่กี่สิบกิโลเมตร ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นช่วงประมาณเดือนตุลานะครับ
หรือถ้าใครชอบเที่ยวภูเขาก็ไม่ควรพลาดครับ ที่ กิ่ง อ.บุ่งคล้า ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองและห่างจากความเจริญพอสมควรเลย (พอดีอาของผมเป็นรายอำเภอที่นั่นเลยมีโอกาสได้ไปเยี่ยม) แต่ถ้าไปที่ภูวิวโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนหน้าหนาวนี้รับรองต้องประทับในแน่นอนครับ ความเป็นธรรมชาติที่นี่ยังหลงเหลืออยู่เยอะมากเลยทีเดียว แต่เสียอย่างเดียว ปีนลำบากฉิบเป๋งเลย ฮ่าๆ แต่คนที่เคยไปภูกระดึงบอกว่าที่นี่ยังเบากว่าภูกระดึงเยอะครับ
ภูทอก ที่ อ.ศรีวิลัย ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจครับ ขึ้นไปกราบนมัสการพระอาจารย์จวน สำหรับทางขึ้นที่นี่ไม่โหดหินเท่าภูวัวครับ แต่ก็มีให้เสียวเหมือนกันเพราะต้องขึ้นบันไดสูงไปกว่าเจ็ดชั้น ไอ้ชั้นล่างๆไม่เท่าไหร่หรอก พอชั้นบนๆนี่มีเหวอแดกครับ เพราะเป็นแง่งบันไดไม้เกาะอยู่ข้างๆภู มองลงล่างไปทีนี่แทบลมจับครับ แต่เมื่อขึ้นไปถึงบนสุดแล้วจะสงบร่มเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ บรรยากาศน่างีบกลางวันเป็นที่สุด
แต่ครั้งล่าสุดที่ได้ไปนี่ผมไม่ได้ออกไปไหนไกลครับ เพราะต้องเทียวไป – กลับ อุดร – หนองคาย เลยได้ไปแต่ที่ใกล้ๆ และตระเวนเที่ยวตัวเมืองยามค่ำเท่านั้นเอง ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่ายามค่ำคืนของหนองคายมีอะไรบ้าง
หนองคายเป็นจังหวัดที่น่าอยู่ใช่ย่อยนะครับ ไม่ใช่แต่เฉพาะกับคนไทยด้วยกันเอง หากรวมไปถึงในสายตาของชาวต่างชาติด้วยถึงขนาดที่นิตยสาร Modern Maturity เคยจัดอันดับเอาไว้ว่าหนองคายเป็นเมืองที่น่าอยู่เป็นอันดับ 7 ของโลกเลยทีเดียว
ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เราจะเดินเฉี่ยวกับฝรั่งตาน้ำข้าวที่หนองคาย บางคนไม่ได้มาเที่ยวเฉยๆ พี่แกกะมาตายที่นี่ก็ยังมี มีเยอะนะครับพวกที่ปลดเกษียณตัวเองแล้วมาพำนักอยู่ที่หนองคาย ที่บ้านเช่าของคุณย่าผมก็เคยมีฝรั่งแบบนี้มาพักเหมือน และก็คงสมใจแก เพราะแกไหลตายคาห้องเลยครับ เห้อ.....
ไอ้เรื่องการจัดอันดับโดยสมาคมผู้เกษียณอายุอะไรนั่นผมเฉยๆครับ สำหรับผมหนองคายก็ยังคงเป็นเมืองที่น่าอยู่เสมอ เพราะเป็นเมืองที่เงียบสงบ อาหารอร่อย แถมถูกอีกต่างหาก แต่อาจจะไม่ถูกใจสำหรับคนที่ชอบชีวิตยามราตรีซักเท่าใดนัก เหตุผลก็คงอยู่ที่ความเงียบสงบอันสุดยอดของเมืองหนองคายยามราตรีนั่นเอง
ตอนกลางคืนที่โน่นเงียบมากครับ แค่สามทุ่มก็เริ่มเวิ้งว้างแล้ว จะมีจุดที่คึกคักบ้างก็คงจะอยู่ที่แผงขายอาหารต่างๆในเมือง แต่รับรองว่าไม่เกินสี่ทุ่มปิดเรียบแน่นอน อีกที่หนึ่งที่คึกคักก็คงจะเป็นโซนถนนริมแม่น้ำโขงครับ เพราะจะเรียงรายไปด้วยร้านเนื้อกระทะ (เนื้อย่างเกาหลีนั่นแหละ) ร้านจิ้มจุ่ม (นอกจากตรงริมโขงมีร้านนึงเด็ดมากตรงแถวๆสถานีรถไฟ น้ำซุปนี่หวานอร่อยมากทีเดียวได้ข่าวว่าเค้าใช้น้ำมะพร้าวอ่อนมาต้มทำเป็นน้ำซุป ไอ้เราตอนแรกก็นึกว่าใส่อะไรผิดปกติหรือเปล่าว้า เพราะมันอร่อยเกินควร ฮ่าๆ) ร้านขายนมปั่น รวมไปถึงร้านเหล้าปั่น แต่โซนนี้ก็คึกคักได้ไม่นานครับ สี่ทุ่มก็เริ่มหงอยกันแล้ว
สังเกตได้เลยว่าคนหนองคายชอบกินเนื้อกระทะมากครับ แถมที่โน่นก็รสดีใช้ได้ ร้านเนื้อกระทะริมโขงนี่ตั้งเรียงรายกันเต็มไปหมดจนไม่อยากจะนับเลย ทีเด็ดอีกอย่างก็คือมีเนื้อกระทะ delivery ด้วย ใช่ย่อยนะเนี่ย เพียงแค่คุณโทรสั่งไป ของก็จะมาส่งถึงที่พร้อมอุปกรณ์ย่าง แน่นอนว่าต้องมีเชื่อเพลิงซึ่งก็คือถ่านให้ด้วย ตอนก่อเตาก่อนกินก็สนุกไปอีกแบบ
มาที่โซนริมโขงต่อ สำหรับผมคิดว่ามุมนี้เหมาะสำหรับที่จะนั่งจิบอะไรยามค่ำครับหม่ำเนื้อกระทะเสร็จก็อาจจะหาอะไรเย็นๆดื่มสร้างความมึนให้กับศีรษะเสียหน่อย หรือจะนั่งดื่มนมปั่นหวานมันก็ดีไปอีกแบบครับ แต่ต้องขอบอกไว้อย่างหนึ่งว่าร้านนมที่นี่เป็นแบบเรียบง่ายครับ ปูเสื่อนั่งกับพื้น วันไหนอากาศร้อนมากเวลานั่งก็จะรู้สึกอุ่นๆที่ก้นหน่อยล่ะครับ ถือว่าได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ส่วนเรื่องราคานี่ไม่ต้องห่วงครับ ไม่แพงเลยครับ รับรองกินอิ่มเมาหลับสบายกระเป๋าแน่นอน
อย่างที่บอกครับว่าหนองคายมันออกจะมาแนวสงบซักหน่อย ขนาดที่ว่าช่วงสงกรานต์สองสามทุ่มก็เงียบสงัดแล้ว ไอ้พวกที่กินเหล้าเย้วๆ กันตอนกลางวันก็กลับไปนอนหมด คนเมืองนี้เที่ยงตรงกับเวลานอนมากครับ (คิดไปเองป่าววะ) ดังนั้นถ้าหากใครชอบความคึกครื้นก็ควรขับรถไปที่อุดรธานีซึ่งเป็นจังหวัดข้างเคียงครับที่นั่นค่อยข้างจะมีสถานที่ยามกลางคืนเยอะทีเดียว
อ้อ เกือบลืมไปครับ ของกินที่อร่อยของหนองคายนอกจากจะเป็นเนื้อกระทะแล้ว ยังมีพวกปลาแม่น้ำที่อร่อยเป็นที่สุดครับ ครั้งล่าสุดที่ผมไปมานี่ได้ไปกินที่ อ.โพนพิสัยครับ มีปลาแข่ (แต่เค้าจะเรียกกันว่าปลาแค่) สดๆพึ่งขึ้นมาจากแม้น้ำเลยตัวประมาณซัก 3-4 โลได้ เนื้อนี่เหลืองมันอร่อยเชียวครับ ไม่ว่าจะเอาไปทอด ไปหมก ไปลาบ โอ้ย ทำอะไรก็อร่อยไปหมด คิดแล้วอยากไปอีกจริงๆเลยพับผ่าดิ
นอกจากอาหารอร่อยแล้ววิวยังดีอีกครับ เพราะร้านทีไปกินนี่อยู่ริมโขงเลย เห็นแม่น้ำโขงเต็มๆ อีกทั้งตรงนั้นเป็นช่วงของแม่น้ำที่มีน้ำไหลจากเขื่อนน้ำงึมฝั่งลาวมารวมผสมกันเหมือนเป็นสามแยกน่ะครับ ช่วงยามเย็นเราจะเห็นสีตัดกันระหว่างน้ำโขงสีแดงกับน้ำสีม่วงจากฝั่งลาวครับ เป็นทัศนียภาพที่น่าชมจริงๆ
จริงแล้วที่เที่ยวของหนองคายยังมีอีกเยอะครับ แต่ตอนนี้ผมคิดไม่ออกเองแหละ ฮ่าๆ ไว้ถ้ามีโอกาสจะทยอยมาบอกเล่าเก้าสิบกันนะครับ สำหรับใครที่คิดอยากไปเที่ยวหนองคายก็ลองดูครับ เดินทางไกลซักหน่อย แต่ถ้าอยากนั่งเครื่องบินก็มีครับนั่งไปลงที่อุดรฯก่อนแล้วต่อรถตู้เข้าเมืองหนองคายได้ ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณล่ะว่าจะเดินทางแบบไหน
สำหรับคราวนี้ผมคงต้องขอลาไปก่อน
ว่าแต่พักนี้ blog เรามีแต่เรื่องเรื่อยเปื่อยแฮะ อิอิ
ป.ล.
สำหรับที่สนใจข้อมูลจำเพาะของจังหวัดหนองคาย ประวัติศาสตร์ความเป็นมา หรือเรื่องอื่นๆ เชิญคลิกได้ที่นี่เลยครับ มีข้อมูลอย่างครบถ้วน
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
16 comments:
นำเที่ยวซะงั้น ... ตัวหนังสือเยอะไปนะครับ ถ้าเอาภาพเข้ามาด้วย จะช่วยให้อ่านแล้วสนุกขึ้นนะครับ ...
อ้อ เสียใจเรื่องคุณปู่ด้วยนะครับ ... เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาจริงๆ ครับ ... แต่บางครั้งเราก็ทำใจยากเหลือเกิน ...
หวัดดีท่านริว
เห็นด้วยครับ ข้อเสียของผมคือเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปเอาซะเลย ไว้คราวหน้าจะพยายามเก็บรูปมาฝากละกันนะครับ
1. ไม่ยอมถ่ายรูปมาใหดู
2. อ่านไปเนี่ย หิวมาก ทั้งข้าวทั้งเหล้า
3. อยากไปมั้ง อยู่ใกล้ๆกับ จ.มุกดาหารไหมพี่ (บ้านไอ้เหมียนมัน)
ตอบไอ้คัส
1.กูเปนคนไม่ชอบถ่ายรูป ผิดเองจริงๆ ขอนี้ ไว้แก้ตัวใหม่คราวหน้านะ
2.ของกินที่โน่นบางอย่างหากินที่ กทม ไม่ได้เลยนะจะบอกให้
3.ไม่ค่อยใกล้หรอกนะ
ตอบน้อง pomperboy
ตอนนี้พี่คลำๆได้ละ ยังไงเด๋วแอด msn ไปหาเลยง่ายดี
อ่านไปหิวไปจิงๆด้วยคับ แฮ่ๆ
อ้อ ผมก็เพิ่งไปเวียงจันทน์มาเมื่อเดือนก่อนครับ ไปนั่งเล่นริมโขงเหมือนกันแต่คนละฝั่ง ได้บรรยากาศดี เห็นคนลาวมานั่งคุยกันริมโขงตอนเย็น พออาทิตย์จะตกก็ขี่มอไซค์หรือเดินกลับ บางคนก็มากันเป็นคู่หนุ่มสาวนั่งกระหนุงกระหนิงให้ผมอิจฉาเล่นซะงั้น
จะว่าไปแล้วเดี๋ยวว่างๆ ผมกะจะเขียนเรื่องไปเยือนเวียงจันทน์ดูสักตั้ง แต่ตอนนี้ขอเขียนเรื่องความทรงจำบอลโลกให้จบก่อนดีกว่า
ดีครับจิโนล่า
ผมก็เคยไปลาวมาครับ ประเทศมีเสน่มาก
ไปนอนที่สี่พันดอนมา ไปเยี่ยมบ้านอดีตนายกฯลาวมาด้วย เป็นบ้านธรรมด๊า ธรรมดา เค้าอยู่กันแบบพอมีพอกินดีครับ
ยังไม่พอ ยังไปเยี่ยมบ้านผู้ใหญ่อีก ข้าวปลาอาหารต้อนรับดีมากครับ (ไม่รวมกับทัวร์เลยนะ เค้าแบบว่าต้อนรับเราเอง) อาหารลาวจะมีกลิ่นแปลกๆครับ แต่ไม่เป็นไร เอาข้าวเหนียวจ้ำก็พอได้รสชาติไปอีกแบบ
ไปลาวได้ลิ้มรส เบยลาวยังครับ ขาดไม่ได้เลยนะนั่น
โอ้ย น่ากินไปหมด ช่วงนี้อยากกินอะไรใหม่ๆ อร่อยๆ
ที่แนะนำมานี่ก็น่าไปเที่ยวทั้งนั้นเลย
วันหลังเป็นไกด์พาไปหน่อยได้ป่ะล่ะ
เปลี่ยนจากทะเลเป็นหนองคายก่อนก็ได้
นั่งรถไปกี่ชม.กว่าจะถึงอ่ะ เรายังไม่เคยไปเลย
อยู่ไกลจากกรุงเทพมากไหม
ยังไงก็ขอให้คุณปู่ หายป่วยเร็ว ๆละกันนะ
ขับรถหรอ นานมาก
ประมาณ 8-9 ชม
นั่งกันตูดบาน 555
ผมชอบหนองคาย ชอบแหนมเนือง เมืองสงบ เคยไปนั่งกินริมโขง สวยชะมัด
เทอมที่แล้วไปหนองคายทุกอาทิตย์เพราะสอนหนังสือ ที่ มข.วิทยาเขตหนองคาย
ชอบหนังสิบห้าค่ำเดือนสิบเอ็ด โพนพิสัย บั้งไฟพญานาค
เป็นเมืองน่าอยู่อันดับเจ็ดของโลก ( สำหรับผู้สูงอายุ)
Small is beautiful
เศรษฐกิจพอเพียง
ในหลวง ทรงพระเจริญ
น่าจะเกี่ยวกับหนองคายนะ
เกี่ยวมั๊ย??
เกี่ยวซิครับ (เนอะ)
ผมว่าความน่าอยู่แบบง่ายๆนี่แหละเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนองคาย
จะกินเหล้ากินยาก็กินกันง่ายๆ หิ้วเสื่อมาปูริมโขงนั่งกินเลย หรือออกมานั่งกินนอกชานใครไปใครมีก็ยิ้วแย้มทักมาย
เคยไปเช่าการ์ตูนที่โน่น งงเลย เพราะไม่ต้องมัดจำ ไม่ต้องทำสมาชิก แค่ทิ้งบัตรหอกอะไรก็ได้เอาไว้ซักใบ ถามเค้าว่าเช่าได้กี่เล่ม เจ๊ก็บอกว่า จะเช่ากี่เล่มก้อเช่าไป หยิบไปเลย สรุปผมเลยหอมมาสิบกว่าเล่มเป้งๆ 55
สังคมที่โน่นแม้ว่าระบบเศรษฐกิจแบบตลาดได้เติบโตขึ้นมาก แต่สิ่งที่เจ๋งคือระบบ trust ที่โน่นก็สูงด้วย ดีนะเนี่ยที่ไม่ขโมยหอบการ์ตูนกลับ กทม ด้วย
คิดว่าอีกไม่นานคงได้ไปหนองคายอีกครับ แล้วจะกลับมาเล่าใหม่
อ่านแล้วหิว....
อยากลองกินปลาแค่ ที่พี่บอกน่ะ ท่าทางน่าอร่อยดีจัง
หนองคายผมก็เคยไป เมืองสงบน่าอยู่จริงๆ เหมือนพี่บอกนั่นแหละ น่าอยู่ถึงขนาดเป็นอันดับ 7 ของโลกเลย ไม่ใช่ธรรมดาๆ เลย
อยากรู้เกณฑ์การตัดสินเค้าจริงๆ ว่าเค้าวัดกันยังไงน่ะ
ไปอีกรอบ ขอภาพปรากรอบ ด้วยนะ
หาเมลล์พี่ไม่เจอเลยจิงๆพับผ่า ^_^
แบบว่า list เยอะตาลายไปหมดซะงั้น ..
สาวเยอะน่ะ...อิอิ ล้อเล่น
(น่าจามีซักคนน้า...ทำไมอยู่นี่ไม่เจอใครเลยหว่า)
วันนั้นเห็นออนแวปๆ แต่ไม่อยู่อ่า หายเฉยเลย ^_^
Great site lots of usefull infomation here.
»
Very best site. Keep working. Will return in the near future.
»
Post a Comment