Thursday, October 13, 2005
นำเสนอรายนามหนังสือผู้โชคดี
วันนี้ตื่นขึ้นมาพร้อมความงัวเงียปวดหัวตึ้บๆบวกกับอาการคอแห้งผาก…..อาการแบบนี้ฟันธงได้เลยครับว่าเมาค้างแน่นอน อันที่จริงแล้วอยากจะนอนต่อใจจะขาด แต่เสือกนัดเพื่อนไปงานสัปดาห์หนังสือฯซะงั้น เอาก็เอาวะต้องกลั้นใจลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่ารอท่านเพื่อนมันมารับ
ตอนแรกเสนอให้ท่านเพื่อนเอารถไปจอดที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินซะ จะได้นั่งรถไฟใต้ดินไปสบายๆมุดดินไปแผล่บเดียวก็ถึงที่แล้ว แต่พี่แกไม่ยอมจะขับรถไปครับ เอาก็เอาวะกูไม่ได้ขับ น้ำมันก็ไม่ได้จ่าย มึงจะเอายังไงก็เรื่องของมึง
กว่าจะวนหาที่จอดรถได้ก็ล่กกันแทบตาย แต่สุดท้ายได้ที่จอดมุมงดงามมากครับ ใกล้กับประตูทางเข้าเลย โชคดีชิบหาย….
พอเข้าไปในงานก็เจอกับฝูงชนมหาศาล คนโคตรเยอะจริงๆ ทำไมเวลาปกติแม่งไม่ซื้อหนังสือกันวะ แห่กันมาซื้อเอาซะวันนี้กันหมด บ่นไปก็เท่านั้นครับ เพราะจะว่าไปไอ้เราก็เลือกที่จะมาซื้อเอาช่วงนี้เหมือนกัน ไปบ่นใส่ชาวบ้านเค้าแต่ตัวเองแม่งก็ไม่ได้จะต่างกับคนอื่นซักเท่าไหร่เล้ย
สรุปได้รายนามหนังสือผู้โชคดีที่ได้ผมเป็นผู้ครอบครองดังนี้ครับ
1.ผู้ชายผู้หลงรักตัวเลข แปลโดย นรา สุภัคโรจน์ - มติชน
เป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องราวของ พอล แอร์ดิช นักคณิตศาสตร์ชาวฮังการี ผมกับคณิตศาสตร์เป็นอะไรที่คบหากันยากครับ แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าคนที่เค้าหลงใหลคณิตศาสตร์หัวปักหัวปำนี่เค้าใช้ชีวิตกันยังไง เลยจัดแจงฉกมาซะ
2.everybodyeverything โดย วิศุทธิ์ พรนิมิต - Typhoon
บอกได้คำเดียวเลยครับว่าการ์ตูนเล่มนี้แนวโคตร…….
3.OCTOBER เล่ม 5 – openbook
สำหรับ October นี่ไม่เคยพลาดครับ เนื้อหาเข้มข้นตลอดกาลจริงๆ
4.ว่าด้วยโลกในศตวรรษที่ 21 เรียบเรียงโดย อุทัย วงศ์ไวศวรรณ – คบไฟ
คบไฟเป็นอีกสำนักพิมพ์หนึ่งที่ชอบผลิตหนังสือดีมีประโยชน์ นี่ก็อีกเล่มครับพลิกไปพลิกมาน่าสนใจทีเดียว เป็นหนังสือที่สำเสนอโลกของเราในหลายๆแง่มุมได้ดีจริงๆ
5.นิเวศน์วิกฤตความรู้กับวิวาทะ โดย ยศ สันติสมบัติ กับ อัมมาร สยามวาลา - คบไฟ
วิวาทะของทั้งสองท่านได้ออกมาเป็นหนังสือได้นานแล้วครับ แต่ถึงจะเก่าจะนานผมก็ไม่ถือครับ วิวาทะคลาสสิค(สำหรับผม)ขนาดนี้ไม่มีเก็บไว้เห็นทีจะไม่ได้ซะแล้ว
6.บริการรับนวดหน้า โดย ชาติ กอบจิตติ – สำนักพิมพ์หอน
ที่บ้านผมก็มีผลงานของชาติ กอบจิตติอยู่บ้างครับ แต่พักหลังไม่ค่อยได้ซื้อเลย พอดีเหลือบมาเห็นเล่มนี้มันเล็กดีแฮะ เหมาะกับคนขี้เกียจแบบผมแถมไม่แพงอีกต่างหากก็เลยเอาซะหน่อย
7.โลกนี้มันช่างยีสต์ โดยแทนไท ประเสริฐกุล – สำนักพิมพ์ระหว่างบรรทัด
โคตรยีสต์เลยเล่มนี้ แถมโคตรโชคดีอีกต่อเพราะคุณแทนไทได้ประทับลายเซ็นบนหนังสือให้ด้วย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชีวิตของผมที่ได้ลายเซ็นเจ้าของผลงานประทับบนหนังสือ
ขอบคุณมากคร้าบ……
8.ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ โดย BURONSON – สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ
อันนี้ไม่ได้ซื้อที่งานสัปดาห์หนังสือครับ แต่ก่อนไปที่งานแวะเช่ามา 11 เล่มรวดที่ร้านแถวบ้านแหะๆ บอกแล้วชีวิตผมขาดการ์ตูนไม่ได้
ได้หนังสือมาหลายเล่มเหมือนกันไม่รู้ว่าจะอ่านจบเมื่อไหร่ ขนาดไอ้เล่มที่ได้มาจากงานฯคราวที่แล้วถึงทุกวันนี้ยังอ่านไม่จบก็ยังมีอีกหลายเล่ม เห้อออ เรื่อยเปื่อยจริงๆ
อย่างว่าแหละครับ ผมมันคนชอบ “เล้าโลม” หนังสือไอ้ที่ว่าเล้าโลมก็คือ พอได้มาแล้วไม่รู้จักอ่านครับ เล้าโลมมันด้วยสายตาและการเปิดพลิกไปพลิกมาไม่เอาไม่อ่านมันจริงๆซักที บางเล่มนี่เปิดไปเปิดมาจนเปื่อยแต่เนื้อหาข้างในยังอ่านไม่ถึงไหนเลยก็มี ซื้อมาทำไมวะเนี่ยกู??
แต่ความโลภมันไม่รู้จักจบสิ้นครับ ยังไม่อีกหลายเล่มเหมือนกันที่ผมอาฆาตเอาไว้ เช่น “วาทกรรมการพัฒนา” ของ อ.ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร เล่มนี้เจ๋งมากครับ อยากได้เก็บไว้เองเหมือนกันแต่ทว่าคนมันเบี้ยน้อยหอยน้อยครับ เงินไม่พอซื้อ
อีกเล่มก็ “ฟื้นสังคมศาสตร์ : ทำไมการวิจัยทางสังคมจึงล้มเหลว และจะทำให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร?” เบ็นท์ ฟริเบียร์ เขียน แปลโดย อรทัย อาจอ่ำ นี่ก็เป็นอีกเล่มครับที่เล็งๆเอาไว้ แต่แม่งแพงชิบ เลยยกยอดเอาไว้วันหลังก็แล้วกัน
เขียนไปเขียนมาก็ปาเข้าไปตีหนึ่งละ เริ่มเบลอๆแล้วครับ เพราะวันนี้เหนื่อยจากการเดินทั้งวันด้วยความเมาค้างแล้วยังไม่พอ ไอ้ท่านเพื่อนชวนกันไปตีแบดมินตันอีกครับ สุดยอด เหนื่อยโคตรๆ !! สังขารคนเรามันไม่เที่ยงจริงๆครับ
ดังนั้นตอนนี้เอาหนังสือเก็บเข้าชั้นไปก่อน การอ่านไม่จำเป็นต้องรีบร้อนก็ได้ครับ (ข้อแก้ตัวของคนที่ขี้เกียจและชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ฮ่าๆ) ตอนนี้ได้เวลาอ่านการ์ตูนที่เช่ามาแล้ว หึหึ
“แกมันอ่ะมันตายไปแล้ว”
“ไฮ่ย์…อัตต๊าอัตต๊าอัตต๊าอัตต๊าาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!”
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
12 comments:
แล้วก็ไม่ยอมทานเหล้ากับพวกผม
เอาหนะ ไว้คราวหน้าละกัน...
พี่นอนี่เชื่อมั่นในตัวเองสูงจริงๆ respect
ก้อเมาแล้วก้อยังจาพยายามอีกอ่ะนะ แต่ก้อดีได้ไปซื้อหนังสือแล้วก้อได้ออกกำลังกายอีกต่างหาก ดีกว่านอนเมาอยู่ที่บ้าน จิงม้า
ฮาโหลๆๆ คุนพี่ชายเรามี blog แล้ว จะเข้ามาอ่านบ่อยๆนะจ๊ะ อิอิ
ขี้โม้เหมือนกันนะเนี่ยพี่บอย 555
เหอะๆ ผมเข้าโอเพ่น ก็หมดไป 2000 เลย บูธนี้เข้าทีไรนี่ เหนเล่มไหนยังไม่มีก็หยิบดะเลย ไปงานได้ ของวันชัย ตันมาอีก 6 เล่ม Blog Blog ของ อ. ปกป้อง Oct เล่ม 5 Etc. มากมาย เเต่พี่บอกจะไปให้โทรมาเรียกนี่หว่า ไหงไปเองซะงั้น ไอเรานี่อุตส่าห์รอ 555 เมื่อวานรุ่น 10 เปิด โกลด์ เลบิล วันเกิดไอ้โจ้(ขอโม้หน่อย)
เหอะๆ ผมเข้าโอเพ่น ก็หมดไป 2000 เลย บูธนี้เข้าทีไรนี่ เหนเล่มไหนยังไม่มีก็หยิบดะเลย ไปงานได้ ของวันชัย ตันมาอีก 6 เล่ม Blog Blog ของ อ. ปกป้อง Oct เล่ม 5 Etc. มากมาย เเต่พี่บอกจะไปให้โทรมาเรียกนี่หว่า ไหงไปเองซะงั้น ไอเรานี่อุตส่าห์รอ 555 เมื่อวานรุ่น 10 เปิด โกลด์ เลบิล วันเกิดไอ้โจ้(ขอโม้หน่อย)
ติดตามบทความพี่มาแล้วก็พึ่งได้รู้อีกเหมือนกันนะคะว่าพี่มีบล็อก จะเข้ามาติดตามอ่านตลอดนะคะ มีสาระดีค่ะ บ้าๆแบบมีสาระ นี่ชมนะคะ +555 จะติดตามเรื่อยๆค่ะ ตกลงพี่จบเศรษฐศาสตร์ม.ชรึปล่าวคะอยากปรึกษามากค่ะ ขอโทษที่รบกวนนะคะ แต่ถ้าจะกรุณาช่วยตอบดดยการcommentกลับblog หนูด้วยนะคะ
คุณ gelgloog นี่มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ มาให้ผมแปลกใจอีกแล้ว นี่ถ้าผมไม่ได้อ่าน blog blog ของ .ปกป้อง คงยังไม่รู้ว่า web log คืออะไรเลย
อยากแนะนำหนังสือเพิ่มเติมอีกเล่ม คือ japanisation ของอ.อรรถจักร (อาจารย์จากม.เชียงใหม่) ว่าด้วยประวัติศาสตร์เศรษฐกิจการเมืองและสังคมญี่ปุ่นฉบับย่อ สำหรับการทำความเข้าใจสังคมที่ซับซ้อนของญี่ปุ่นให้ดีขึ้น ประเทศที่ผู้ชายบ้างานและบ้ากามในคนเดียวกันแต่ต่างกรรมต่างเวลา
ว่าแต่ผมก็เล็ง "โลกนี้มันช่างยีสต์" ของแทนไท ประเสริฐกุล เหมือนกันท่าทางของลูกชายอาจารย์เสกสรรค์คงจะแนวไม่ใช่น้อย ติดแต่ว่าคำว่า "ยีสต์" มันแปลว่าอะไรฟะ เดี๋ยวนี้ศัพท์แสงพิลึกๆ มากันรวดเร็วกันตามไม่ทัน ช่วยไขกระจ่างหน่อยนะ
ตอบคุณตี่....
เล่มที่คุณแนะนำมาผมเห็นแล้วครับ แต่งบประมาณในกระเป๋ามันไม่พอ คิดว่าถ้าคุณเป็นตี่เดียวกับที่ผมรู้ล่ะก็จงเอามาให้ผมยืมเสียโดยดี
สำหรับคำว่า"ยีสต์"อย่าไปหาคำตอบกับมันเลยครับ แต่บอกได้คำเดียวว่า จะหาคนที่ "ยีสต์" แบบคุณแทนไทนี่ผมว่าคงหายากนะครับ
ตอนนี้เจอพิษไข้ ขี้เกียจ update blog มาก เอาไว้หายแล้วค่อยกันนะครับทุกๆท่าน
Post a Comment